สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้กลับมากับกระทู้ Beauty Society ซะหน่อย เด็กใหม่นะจ๊ะ เพิ่งเคยเขียนทู้พาเที่ยวเป็นครั้งแรก ^^
ที่ที่เราจะพาไปเที่ยวกันในวันนี้ ก็ไม่ใช่ที่แปลกอะไรเลย คือที่เมืองโซล เกาหลีใต้นั่นเอง
โดยครั้งนี้ทางสื่อไทยพร้อมกับสื่อจากฮ่องกงและสิงคโปร์ได้รับคำเชิญจากทางการท่องเที่ยวโซล และอิทูดี้เฮาส์เกาหลี
ซึ่งจะพาเราไป กิน เที่ยว ช๊อป และเปิดหูเปิดตาโซลมุมใหม่กันนั่นเองค่า กับ trip ที่มีชื่อว่า
"PLAY SEOUL PLAY ETUDE"
ขอแยกการพาทัวร์ครั้งนี้เป็นหมวดหมู่นะคะ จะได้ชัดเจน เข้าใจง่าย สรุปแบบเน้นๆไปเลยว่า อันไหนน่าสน น่าไป
เริ่มจากหมวดหมู่แรก
“PLACES” ไปไหนดี ที่เด็ดๆ
ที่แรกย่าน “ฮงแด” ขึ้นชื่อว่าเป็น young generation culture experience เป็นถนนกว้างขวาง 2 ข้างทางมีร้านรวงมากมาย ตกแต่งแนวเก๋ไก๋ มีตึกสวยๆฝีมือ designer รุ่นใหม่ พร้อมร้านขายของ creative ไม่ว่าจะ shopping หรือกินข้าว ย่านนี้ครบ! (Hello Kitty Café ก็อยู่แถวนี้จ้า) เอาเป็นว่าเดินกันชิลๆ ดูวัยรุ่นแต่งตัวกันเพลินๆก็ได้นะ
“เมียงดง” จะพลาดได้ยังไงกับที่นี่ shopping street สุดแสนถูกใจวัยรุ่น มีทั้งของ brand name และ local ราคาตั้งแต่ต่ำกว่าร้อยบาทไปจนถึงของ intrend ในกระแส (ตอนที่ไป คิดง่ายๆว่า 1000 won = 28 บาทค่ะ) แถมตรงกลางถนนตลอดทางก็ยังมีของขายแผงลอยให้เลือกซื้อกันแบบราคาแสนถูก แล้วไหนจะยังของกินข้างทาง ยิ่งไปตอนหนาวๆ ได้ของกินอุ่นๆมาอยู่ในมือนี่มันสุขนัก อูยยย แถมเปิดถึงดึกดื่นประมาณ 5 ทุ่มยังพอช๊อปได้อยู่เลย
“กังนัม” ใช่ ค่ะ มันมีจริงนะคะคุณ ฮ่าๆๆๆ กังนัมเป็นย่านเมืองใหม่ในโซล เป็นย่านธุรกิจตึก office สูงๆ หน้าตาทันสมัยอยู่แถบนี้ ถามว่าแล้วมีอะไรให้เดิน ก็พอมีของให้ shop บ้างค่ะ แต่จะเป็น shop ใหญ่ๆ แบบร้านนึงมี 2-3 ชั้น หรือถ้าใครอยากมาชิลแบบสาว chic ก็มีร้านกาแฟเก๋ๆให้นั่งชมผู้คนทีเดินผ่านไปมาได้เพลินตาอยู่ค่า อ่อ และที่ขำคือ หัวมุมถนน มี backdrop Gangnam Style สีสันสะดุดตาให้คนที่ผ่านไปมาได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก อ่ะ ต้องอย่าลืมทำท่าควบม้าด้วยนะ อันนี้ก็ให้เขาหน่อย เพราะทำความดังไว้ระดับ phenomenon เลยทีเดียว!
หมวดหมู่ต่อไป
“A MUST SEE” สิ่งนี้มีความเจ๋ง!
“Trick Eye Museum” ต้น แบบพิพิธพัณฑ์/ แกลเลอรี่ภาพลวงตาที่เรามีที่พัทยา ที่นี่เป็นเหมือนแกลเลอรี่ภาพ 1 ชั้นแถวย่านฮงแด ทางเข้าไม่ใหญ่โต แต่ข้างในอยู่ได้นานเลยทีเดียว ถ้าเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ มีภาพวาดฝาผนังชวนยิ้มมากมาย แต่มันจะไม่สนุกเลยถ้าคุณไม่ลองไปยืนในรูป แล้วให้เพื่อนถ่ายรูปให้ในจุดที่เขามาร์คไว้
ข้อมูลเพิ่มเติม Trick Eye Museum
“Bibap Show” บิบับนี้ มาจากข้าวยำบิบิมบับนี่แหละค่ะ เป็นโชว์ร้องเต้นเล่นละครแบบสดพร้อม beat-box และ b-boy เขาให้คำจำกัดความโชว์ตัวเองว่า “delicious musical” โดยเนื้อเรื่องเป็นการแข่งทำอาหารกันของพ่อครัว 2 ฝ่าย เขียวและแดง โดยพล๊อตเรื่องมาได้แบบขำมาก เหมือนดูหนังเกาหลีตลกๆอยู่ นักแสดงทุกคนเก่งครบเครื่องมากกกก ทั้งร้องเพลง เต้น (โดยเฉพาะ b-boy) แล้ว beatbox สดตลอดการแสดง พลังเยอะมหาศาลมากๆ ช่วงเต้นตอนจบสนุกมาก มันส์มากกก เหมือนดู concert อยู่ อยากลุกขึ้นไปเย้วๆไม่อยากให้จบเลย ใครนึกภาพไม่ออกขอให้ดูคลิปนี้ค่ะ
The Show
One Minute Highlight
“THE FOOD” กินอะไรดี ที่ไหนโดน
ที่แรกหมูย่างเกาหลี จะพลาดได้ไงจ๊ะ แต่ร้านนี้ “ยุก ชิล พัล” ที่ แปลว่า 678 ของพิธีกรตลกชื่อดัง “คังโฮดง” นั่นเอง อยู่ย่านฮงแดอีกเช่นกัน ร้านนี้พอแค่เข้าไปเห็นหุ่นคังโฮดงหัวโตเท่านั้นหละ ดิชั้นยืนเต้นเย้วๆให้คนถ่ายรูปให้ เสมือนว่าเจอตัวจริงเลยทีเดียว -_- ร้านนี้ได้ชื่อว่าเป็นหมูย่างเกาหลีแบบกึ่ง traditional เลยนะ เพราะมีโซนนั่งพิ้นสบายๆ อาหารก็อร่อยถูกปากเลยค่ะ ยิ่งมีหนุ่มๆมาชวนชนโซจูตรากบนะ โอยยยยสนุก อร่อย มาววว - -“
ใครสนใจลองดูข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ: information/ reviews
ร้านต่อไปแบบเอาใจวันรุ่นนน “School Food” ดูดบะหมี่กันแบบเด็กเกาหลีต้องร้านนี้เลย ร้านหน้าตาเหมือน fast-food มีอาหารหลากหลาย ทั้งบะหมื่ ข้าวปั้นไส้ต่างๆ หรือจะบิบัมบับ บรรยากาศสบายๆเพราะส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น มีสาขาเยอะแยะตามย่านชื่อดังต่างๆ ที่ประทับใจอีกอย่างคือ packaging ห่อกลับบ้าน น่ารักมากกกกค่า อูยยย ว่าแล้วก็อยากกินอีกค่า
“อาหารข้างทาง” อัน นี้หละ บ้านที่สุดแล้ว ถ้าอยากรู้ว่าคนทั่วไปหรือวัยรุ่นเขากินอะไรกัน อาหารข้างทางนี่หละห้ามพลาด ราคาก็ไม่แพง ได้ชิมตั้งหลายอย่าง โดยเฉพาะที่เมียงดง มีอาหารให้เลือกกินไม่ขาดสาย ทั้งปลาหมึก มันทอด แป้งไส้ถั่วแดง ไอติม โอย เยอะแยะได้อีก
“THE BEAUTY” มาเกาหลี ไม่พูดถึงเรื่องความงาม เหมือนมาไม่ถึงนะ!
เริ่มกันที่ที่แรก “Luxury Korean Traditional Beauty Salon” ลองไปเสริมสวยแผนโบราณกันดู มีทั้งการใช้สมุนไพร ปั้นยาลูกกลองห่อทองคำและที่สนุกสุด... ฝังเข็ม!! เขาว่าการฝังเข็มเพื่อยกกระชับใบหน้าเนี่ย กำลังเป็นที่นิยมกันมากๆ ขนาดว่าคุณผู้ชายทีมงานที่พาเราไปยังบอกว่าถ้าเลือกได้จะฝังเข็มแบบนี่หละ จ้า ความรู้สึกก็จั๊กกระจี๋ดีค่ะ เข็มจะมาในหลอดเล็กๆแล้วคุณหมอจะดีดปุ๊งเข้าไปแล้วก็ทิ้งไว้ซักพัก ไม่เจ็บเลยนะ สนุกดี ^^ ที่เด็ดอีกอันคือพอทำ treatment เสร็จ เค้าจะมีน้ำสมุนไพรให้ดื่ม โดยแต่ละคนซึ่งมีสภาพร่างกายต่างกัน ดื่มแล้วจะได้รสชาดที่ต่างกันด้วยค่ะ ถ้าใครรู้สึกหวานแสดงว่าสุขภาพดี ถ้าใครรู้สึกขม อาจจะเป็นไปได้ว่ามีความเหนื่อยล้า หรืออวัยวะภายในมีปัญหาค่ะ
“Etude House Headquarter Office” ไหนๆมากับอิทูดี้ทั้งทีก็ต้องไปเยี่ยมบ้านเขาหน่อยค่ะ office น่ารักเว่ออออร์ เจ้าหญิงมากกก ขาวชมพูไปทุกอณูเลย ส่วนที่เห็นคือส่วนกลางสำหรับต้อนรับแขกและสำหรับพักผ่อนค่ะ มีห้องทานขนม ห้องเล่นเกมส์ ห้องอ่านหนังสือและตัวอย่าง shop สำหรับทดลองวาง display product ต่างๆ การได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เจริญหูเจริญตานี่มีความสำคัญมากเลยนะ มันเป็นแรงผลักดันให้อยากมาทำงานด้วยส่วนหนึ่งเลยทีเดียวแหละ
ไป office กันแล้วจะไม่ไปเยี่ยมเยือน shop เขาได้อย่างไรกัน อันนี้พากันไปที่ shop ใหญ่ที่ย่างกังนัมค่ะ โดยที่นี่เป็น shop ต้นแบบการตกแต่งในแนวใหม่ ต่อๆไปสาขาอื่นๆทั้งในเกาหลีและต่างประเทศก็จะมีรูปแบบประมาณนี้ค่ะ เจ้าหญิงกันเข้าไปอีกระดับด้วยแชนเดอร์เลียยักษ์ และความโล่งโปร่งก็ยิ่งทำให้ shopping ได้สะดวกค่ะ
ถ้าอยากรู้ว่าดิชั้นโดนอะไรไปบ้าง ขอให้เขาไปเสพย์กระทู้รีวิวที่โพสต์ไปแล้วสักพัก ตามนี้เลยค่ะ ^^
++Review: ทำหน้าฉ่ำกับของใหม่ (ที่ไม่เข้าไทย) จาก Etude House :)++
++Review: ลิป 6 สีกับของดีจิปาถะจากเกาหลี :)++
ทีนี้มาพูดถึง beauty trend กันบ้าง
ซึ่งช่วงที่ไป เป็นช่วงคาบเกี่ยวของ 2 collection ค่ะ ได้แก่ collection สุดเจ้าหญิง “Ettoinette” และ collection น่ารักสดใสรับ summer กับ “Sweet Recipe” ส่วน look ที่ทางอิทูดี้สาธิตให้ดูก็แน่นอนว่าต้องเป็นหน้าฉ่ำวาว point makeup โทนชมพูส้ม ดูอ่อนใส สมเป็นวัยแรกรุ่น ตามสไตล์เกาหลีเค้าเลยค่ะ
แอบ พ่วงท้ายแถมมาให้อีก 1 กับแบรนด์ลูกของอิทูดี้ “eSpoir (เอสปอร์)” แบรนด์นี้จะดูโตกว่าและเป็นมืออาชีพมากกว่า ถึงแม้ว่า shop จะยังมีไม่เยอะเท่าอิทูดี้ แต่ shop มีความโดดเด่นจนเราอดไม่แวะไม่ได้ ของแต่ละอย่างเนื้อแน่น สีจัดจ้าน ก็เลยเข้าไปเริงร่าและแอบช๊อปเบาๆกันไปคนละนิด คนละหน่อยค่ะ ^^ รีวิวไปแล้วด้วยละ ตามนี้เลยยย
++Review: "eSpoir" makeup สาวมั่นจากเกาหลี++
เอา หละค่า พาเที่ยวกันจนหนำแล้วก็ขอฝาก trick เล็กๆน้อยๆในการเที่ยวหน้าหนาวไว้หน่อยละกันจ้า หนาวในที่นี้คือต่ำกว่า 10 - -10 องศานะคะ ซึ่งเป็นช่วงที่เรียกได้ว่า “อากาศอุ่นขึ้นแล้ว” ของเกาหลีเขาหละ -_-‘
หู/ หน้า/ มือ จะเป็นสิ่งที่ทนรับความหนาวได้น้อยที่สุด สำหรับเรานะ มาดูกันว่า เราควรป้องกันแต่ละส่วนยังไงบ้าง
ที่ที่เราจะพาไปเที่ยวกันในวันนี้ ก็ไม่ใช่ที่แปลกอะไรเลย คือที่เมืองโซล เกาหลีใต้นั่นเอง
โดยครั้งนี้ทางสื่อไทยพร้อมกับสื่อจากฮ่องกงและสิงคโปร์ได้รับคำเชิญจากทางการท่องเที่ยวโซล และอิทูดี้เฮาส์เกาหลี
ซึ่งจะพาเราไป กิน เที่ยว ช๊อป และเปิดหูเปิดตาโซลมุมใหม่กันนั่นเองค่า กับ trip ที่มีชื่อว่า
"PLAY SEOUL PLAY ETUDE"
ขอแยกการพาทัวร์ครั้งนี้เป็นหมวดหมู่นะคะ จะได้ชัดเจน เข้าใจง่าย สรุปแบบเน้นๆไปเลยว่า อันไหนน่าสน น่าไป
เริ่มจากหมวดหมู่แรก
“PLACES” ไปไหนดี ที่เด็ดๆ
ที่แรกย่าน “ฮงแด” ขึ้นชื่อว่าเป็น young generation culture experience เป็นถนนกว้างขวาง 2 ข้างทางมีร้านรวงมากมาย ตกแต่งแนวเก๋ไก๋ มีตึกสวยๆฝีมือ designer รุ่นใหม่ พร้อมร้านขายของ creative ไม่ว่าจะ shopping หรือกินข้าว ย่านนี้ครบ! (Hello Kitty Café ก็อยู่แถวนี้จ้า) เอาเป็นว่าเดินกันชิลๆ ดูวัยรุ่นแต่งตัวกันเพลินๆก็ได้นะ
“เมียงดง” จะพลาดได้ยังไงกับที่นี่ shopping street สุดแสนถูกใจวัยรุ่น มีทั้งของ brand name และ local ราคาตั้งแต่ต่ำกว่าร้อยบาทไปจนถึงของ intrend ในกระแส (ตอนที่ไป คิดง่ายๆว่า 1000 won = 28 บาทค่ะ) แถมตรงกลางถนนตลอดทางก็ยังมีของขายแผงลอยให้เลือกซื้อกันแบบราคาแสนถูก แล้วไหนจะยังของกินข้างทาง ยิ่งไปตอนหนาวๆ ได้ของกินอุ่นๆมาอยู่ในมือนี่มันสุขนัก อูยยย แถมเปิดถึงดึกดื่นประมาณ 5 ทุ่มยังพอช๊อปได้อยู่เลย
“กังนัม” ใช่ ค่ะ มันมีจริงนะคะคุณ ฮ่าๆๆๆ กังนัมเป็นย่านเมืองใหม่ในโซล เป็นย่านธุรกิจตึก office สูงๆ หน้าตาทันสมัยอยู่แถบนี้ ถามว่าแล้วมีอะไรให้เดิน ก็พอมีของให้ shop บ้างค่ะ แต่จะเป็น shop ใหญ่ๆ แบบร้านนึงมี 2-3 ชั้น หรือถ้าใครอยากมาชิลแบบสาว chic ก็มีร้านกาแฟเก๋ๆให้นั่งชมผู้คนทีเดินผ่านไปมาได้เพลินตาอยู่ค่า อ่อ และที่ขำคือ หัวมุมถนน มี backdrop Gangnam Style สีสันสะดุดตาให้คนที่ผ่านไปมาได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก อ่ะ ต้องอย่าลืมทำท่าควบม้าด้วยนะ อันนี้ก็ให้เขาหน่อย เพราะทำความดังไว้ระดับ phenomenon เลยทีเดียว!
หมวดหมู่ต่อไป
“A MUST SEE” สิ่งนี้มีความเจ๋ง!
“Trick Eye Museum” ต้น แบบพิพิธพัณฑ์/ แกลเลอรี่ภาพลวงตาที่เรามีที่พัทยา ที่นี่เป็นเหมือนแกลเลอรี่ภาพ 1 ชั้นแถวย่านฮงแด ทางเข้าไม่ใหญ่โต แต่ข้างในอยู่ได้นานเลยทีเดียว ถ้าเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ มีภาพวาดฝาผนังชวนยิ้มมากมาย แต่มันจะไม่สนุกเลยถ้าคุณไม่ลองไปยืนในรูป แล้วให้เพื่อนถ่ายรูปให้ในจุดที่เขามาร์คไว้
ข้อมูลเพิ่มเติม Trick Eye Museum
“Bibap Show” บิบับนี้ มาจากข้าวยำบิบิมบับนี่แหละค่ะ เป็นโชว์ร้องเต้นเล่นละครแบบสดพร้อม beat-box และ b-boy เขาให้คำจำกัดความโชว์ตัวเองว่า “delicious musical” โดยเนื้อเรื่องเป็นการแข่งทำอาหารกันของพ่อครัว 2 ฝ่าย เขียวและแดง โดยพล๊อตเรื่องมาได้แบบขำมาก เหมือนดูหนังเกาหลีตลกๆอยู่ นักแสดงทุกคนเก่งครบเครื่องมากกกก ทั้งร้องเพลง เต้น (โดยเฉพาะ b-boy) แล้ว beatbox สดตลอดการแสดง พลังเยอะมหาศาลมากๆ ช่วงเต้นตอนจบสนุกมาก มันส์มากกก เหมือนดู concert อยู่ อยากลุกขึ้นไปเย้วๆไม่อยากให้จบเลย ใครนึกภาพไม่ออกขอให้ดูคลิปนี้ค่ะ
The Show
One Minute Highlight
“THE FOOD” กินอะไรดี ที่ไหนโดน
ที่แรกหมูย่างเกาหลี จะพลาดได้ไงจ๊ะ แต่ร้านนี้ “ยุก ชิล พัล” ที่ แปลว่า 678 ของพิธีกรตลกชื่อดัง “คังโฮดง” นั่นเอง อยู่ย่านฮงแดอีกเช่นกัน ร้านนี้พอแค่เข้าไปเห็นหุ่นคังโฮดงหัวโตเท่านั้นหละ ดิชั้นยืนเต้นเย้วๆให้คนถ่ายรูปให้ เสมือนว่าเจอตัวจริงเลยทีเดียว -_- ร้านนี้ได้ชื่อว่าเป็นหมูย่างเกาหลีแบบกึ่ง traditional เลยนะ เพราะมีโซนนั่งพิ้นสบายๆ อาหารก็อร่อยถูกปากเลยค่ะ ยิ่งมีหนุ่มๆมาชวนชนโซจูตรากบนะ โอยยยยสนุก อร่อย มาววว - -“
ใครสนใจลองดูข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ: information/ reviews
ร้านต่อไปแบบเอาใจวันรุ่นนน “School Food” ดูดบะหมี่กันแบบเด็กเกาหลีต้องร้านนี้เลย ร้านหน้าตาเหมือน fast-food มีอาหารหลากหลาย ทั้งบะหมื่ ข้าวปั้นไส้ต่างๆ หรือจะบิบัมบับ บรรยากาศสบายๆเพราะส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น มีสาขาเยอะแยะตามย่านชื่อดังต่างๆ ที่ประทับใจอีกอย่างคือ packaging ห่อกลับบ้าน น่ารักมากกกกค่า อูยยย ว่าแล้วก็อยากกินอีกค่า
“อาหารข้างทาง” อัน นี้หละ บ้านที่สุดแล้ว ถ้าอยากรู้ว่าคนทั่วไปหรือวัยรุ่นเขากินอะไรกัน อาหารข้างทางนี่หละห้ามพลาด ราคาก็ไม่แพง ได้ชิมตั้งหลายอย่าง โดยเฉพาะที่เมียงดง มีอาหารให้เลือกกินไม่ขาดสาย ทั้งปลาหมึก มันทอด แป้งไส้ถั่วแดง ไอติม โอย เยอะแยะได้อีก
“THE BEAUTY” มาเกาหลี ไม่พูดถึงเรื่องความงาม เหมือนมาไม่ถึงนะ!
เริ่มกันที่ที่แรก “Luxury Korean Traditional Beauty Salon” ลองไปเสริมสวยแผนโบราณกันดู มีทั้งการใช้สมุนไพร ปั้นยาลูกกลองห่อทองคำและที่สนุกสุด... ฝังเข็ม!! เขาว่าการฝังเข็มเพื่อยกกระชับใบหน้าเนี่ย กำลังเป็นที่นิยมกันมากๆ ขนาดว่าคุณผู้ชายทีมงานที่พาเราไปยังบอกว่าถ้าเลือกได้จะฝังเข็มแบบนี่หละ จ้า ความรู้สึกก็จั๊กกระจี๋ดีค่ะ เข็มจะมาในหลอดเล็กๆแล้วคุณหมอจะดีดปุ๊งเข้าไปแล้วก็ทิ้งไว้ซักพัก ไม่เจ็บเลยนะ สนุกดี ^^ ที่เด็ดอีกอันคือพอทำ treatment เสร็จ เค้าจะมีน้ำสมุนไพรให้ดื่ม โดยแต่ละคนซึ่งมีสภาพร่างกายต่างกัน ดื่มแล้วจะได้รสชาดที่ต่างกันด้วยค่ะ ถ้าใครรู้สึกหวานแสดงว่าสุขภาพดี ถ้าใครรู้สึกขม อาจจะเป็นไปได้ว่ามีความเหนื่อยล้า หรืออวัยวะภายในมีปัญหาค่ะ
“Etude House Headquarter Office” ไหนๆมากับอิทูดี้ทั้งทีก็ต้องไปเยี่ยมบ้านเขาหน่อยค่ะ office น่ารักเว่ออออร์ เจ้าหญิงมากกก ขาวชมพูไปทุกอณูเลย ส่วนที่เห็นคือส่วนกลางสำหรับต้อนรับแขกและสำหรับพักผ่อนค่ะ มีห้องทานขนม ห้องเล่นเกมส์ ห้องอ่านหนังสือและตัวอย่าง shop สำหรับทดลองวาง display product ต่างๆ การได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เจริญหูเจริญตานี่มีความสำคัญมากเลยนะ มันเป็นแรงผลักดันให้อยากมาทำงานด้วยส่วนหนึ่งเลยทีเดียวแหละ
ไป office กันแล้วจะไม่ไปเยี่ยมเยือน shop เขาได้อย่างไรกัน อันนี้พากันไปที่ shop ใหญ่ที่ย่างกังนัมค่ะ โดยที่นี่เป็น shop ต้นแบบการตกแต่งในแนวใหม่ ต่อๆไปสาขาอื่นๆทั้งในเกาหลีและต่างประเทศก็จะมีรูปแบบประมาณนี้ค่ะ เจ้าหญิงกันเข้าไปอีกระดับด้วยแชนเดอร์เลียยักษ์ และความโล่งโปร่งก็ยิ่งทำให้ shopping ได้สะดวกค่ะ
ถ้าอยากรู้ว่าดิชั้นโดนอะไรไปบ้าง ขอให้เขาไปเสพย์กระทู้รีวิวที่โพสต์ไปแล้วสักพัก ตามนี้เลยค่ะ ^^
++Review: ทำหน้าฉ่ำกับของใหม่ (ที่ไม่เข้าไทย) จาก Etude House :)++
++Review: ลิป 6 สีกับของดีจิปาถะจากเกาหลี :)++
ทีนี้มาพูดถึง beauty trend กันบ้าง
ซึ่งช่วงที่ไป เป็นช่วงคาบเกี่ยวของ 2 collection ค่ะ ได้แก่ collection สุดเจ้าหญิง “Ettoinette” และ collection น่ารักสดใสรับ summer กับ “Sweet Recipe” ส่วน look ที่ทางอิทูดี้สาธิตให้ดูก็แน่นอนว่าต้องเป็นหน้าฉ่ำวาว point makeup โทนชมพูส้ม ดูอ่อนใส สมเป็นวัยแรกรุ่น ตามสไตล์เกาหลีเค้าเลยค่ะ
แอบ พ่วงท้ายแถมมาให้อีก 1 กับแบรนด์ลูกของอิทูดี้ “eSpoir (เอสปอร์)” แบรนด์นี้จะดูโตกว่าและเป็นมืออาชีพมากกว่า ถึงแม้ว่า shop จะยังมีไม่เยอะเท่าอิทูดี้ แต่ shop มีความโดดเด่นจนเราอดไม่แวะไม่ได้ ของแต่ละอย่างเนื้อแน่น สีจัดจ้าน ก็เลยเข้าไปเริงร่าและแอบช๊อปเบาๆกันไปคนละนิด คนละหน่อยค่ะ ^^ รีวิวไปแล้วด้วยละ ตามนี้เลยยย
++Review: "eSpoir" makeup สาวมั่นจากเกาหลี++
เอา หละค่า พาเที่ยวกันจนหนำแล้วก็ขอฝาก trick เล็กๆน้อยๆในการเที่ยวหน้าหนาวไว้หน่อยละกันจ้า หนาวในที่นี้คือต่ำกว่า 10 - -10 องศานะคะ ซึ่งเป็นช่วงที่เรียกได้ว่า “อากาศอุ่นขึ้นแล้ว” ของเกาหลีเขาหละ -_-‘
หู/ หน้า/ มือ จะเป็นสิ่งที่ทนรับความหนาวได้น้อยที่สุด สำหรับเรานะ มาดูกันว่า เราควรป้องกันแต่ละส่วนยังไงบ้าง
หู - ให้หาหมวกไหมพรม earmuffs หรือ turban แบบนี้มาคาดไว้ค่ะ นอกจากกันหนาวแล้วยังกันลมตีผมหัวยุ่งด้วยหละ
หน้า - ถ้าวันไหนหนาวมากๆแลเวเราเดินเยอะๆ จะรู้สึกหน้าชาค่ะ ให้เตรียมผ้าพันคอผืนใหญ่ๆที่พันได้ 2-3 รอบ พันหลวมๆแล้วดึงขึ้นมาปิดหน้า ก็ช่วยไม่ให้หน้าชาหรือตึงได้ประมาณนึงเลย
มือ - สำหรับเรานะ มือนี่สุดๆแค่ 0 องศาก็มือจะไร้ความรู้สึกแล้ว ฉะนั้นถุงมือ จำเป็นมากๆ ถุงมือหนังที่ข้างในบุขนสัตว์ก็อุ่นดีค่ะ แต่การหาถุงทรายร้อนซุกไว้ในกระเป๋าเสื้อที่เราสามารถล้วงไปซุกได้ เป็นสิ่งที่ควรทำมากๆ
หน้า - ถ้าวันไหนหนาวมากๆแลเวเราเดินเยอะๆ จะรู้สึกหน้าชาค่ะ ให้เตรียมผ้าพันคอผืนใหญ่ๆที่พันได้ 2-3 รอบ พันหลวมๆแล้วดึงขึ้นมาปิดหน้า ก็ช่วยไม่ให้หน้าชาหรือตึงได้ประมาณนึงเลย
มือ - สำหรับเรานะ มือนี่สุดๆแค่ 0 องศาก็มือจะไร้ความรู้สึกแล้ว ฉะนั้นถุงมือ จำเป็นมากๆ ถุงมือหนังที่ข้างในบุขนสัตว์ก็อุ่นดีค่ะ แต่การหาถุงทรายร้อนซุกไว้ในกระเป๋าเสื้อที่เราสามารถล้วงไปซุกได้ เป็นสิ่งที่ควรทำมากๆ
การแต่งตัวหน้าหนาว ขอบอก ว่าจริงๆแล้วการทำแบบเราไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ เพราะเอาของไปใส่ ไม่ซ้ำวันกันเลย -_-‘ จริงๆควรมี jacket กันหนาวที่ใช้งานได้จริงสัก 2 ตัว ส่วนข้างในใส่ซ้ำๆวนๆกันก็ได้ค่ะ แน่นอนว่าชั้นรองลงมาจาก underwear ควรใส่ heattech/ longjohn แล้วใส่เสื้อธรรมดาอีกชั้น แล้วค่อยทับด้วย jacket เผื่อเข้าร่ม อากาศอบอุ่น จะได้ถอด jacket ออกสะดวกๆ
รองเท้าก็สำคัญ ไม่แพ้กันสำหรับเวลาหนาวมากๆ ควรใส่รองเท้ามิดชิด ไม่มีรู ร่องใดๆที่อากาศลอดเข้ามาได้ จะไม่ใส่ boots/ รองเท้าหนังก็ได้นะ จะใส่ผ้าใบก็ได้ค่ะ แต่ผ้าใบควรมีความหนาพอที่จะกันน้ำ กันหิมะ กันลมได้ เพราะถ้าเท้าเปียกเนี่ย รำคาญทั้งวันแน่นอน
การจัดกระเป๋าก็ ไม่ยากค่ะ เสื้อผ้าบางๆใช้ม้วนเอาจะยับน้อยกว่าพับ อะไรที่กลัวเสียทรงก็ใช้เสื้อ/ ผ้าพันคอ/ ถุงเท้ายัดๆเข้าไปให้ได้ทรง ส่วนเสื้อ jacket ตัวใหญ่ๆแปะไว้นอกสุด และที่สำคัญอย่าลืมเอากระเปาเบาๆไปเผื่อมีของช๊อปงอกกันออกมาด้วยนะจ๊ะสาวๆ นักช๊อปทั้งหลาย ^^
ทั้งหมดก็เท่านี้หละค่า หวังว่าสาวๆคงได้ประโยชน์อะไรจากการพาทัวร์เกาหลีครั้งนี้บ้างนะคะ
เฮ้!
ทั้ง นี้ก็ต้องขอขอบคุณทีมงานอิทูดี้เฮาส์ประเทศไทย ประเทศเกาหลี การท่องเที่ยวโซล และเพื่อร่วมทริป ไม่ว่าจะเป็นสื่อไทยต่างๆ และสื่อจากทางสิงคโปร์และฮ่องกง ที่ทำให้ทริปนี้สนุก ไม่น่าเบื่อ เหมือนทัวร์ทำกิมจิทั่วไป อิอิ
แล้วพบกันใหม่กับทู้ดองเค็มอื่นๆนะค๊าบบบบบ
อันยอง!
Original Post: 29 April 2013
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น